(คลิป) สักทอง สักหยวก สักขี้ควาย สักหิน สักไข ผ่าดูต้นสักอายุ 8 ปี : วีดีโอ เกษตร
สักทอง สักหยวก สักขี้ควาย สักหิน สักไข ผ่าดูต้นสักอายุ8ปี ep110
ไม้สักทอง เป็นไม้โตเร็วปานกลางและเป็นไม้เนื้อแข็ง ที่มีลักษณะพิเศษกว่าไม้ชนิดอื่น โดยเฉพาะเนื้อไม้ มอด ปลวก และแมลง ไม่ทำอันตราย เนื้อไม้มีสีเหลืองทอง ลวดลายสวยงาม เลื่อยไสกบตบแต่งง่าย จึงนิยมใช้ทำบ้านเรือนที่ต้องการความสวยงาม ในสมัยโบราณไม้สักทองหาง่าย ราคาไม่แพง การสร้างบ้านเรือน ใช้ไม้สักทองทำเสาเรือนด้วย เพราะมีความทนทาน สามารถอยู่ในดินได้เป็นเวลานานๆ ปัจจุบันไม้สักทองหายากและมีราคาแพงมากขึ้น
สภาพพื้นที่เหมาะสมกับการปลูกต้นสัก
ต้นสักเจริญเติบโต และให้คุณภาพของเนื้อไม้ดี ต้องการสภาพพื้นที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 200-1,000 เมตร ดินควรเป็นดินร่วนปนทรายที่กำเนิดมาจากหินปูน เนื่องจากมีธาตุแคลเซียมสูงเป็นที่ต้องการของต้นสัก หน้าดินลึกระบายน้ำได้ดี มีฝนเฉลี่ย 1,250-2,500 มิลลิเมตร ต่อปี ต้องการแสงจ้าและอุณหภูมิระหว่าง 13-40 องศาเซลเซียส ต้นสักจะให้ผลดียิ่งขึ้นถ้าปลูกในพื้นที่มีความลาดเอียง 15 เปอร์เซ็นต์
การขยายพันธุ์ และแหล่งจำหน่ายพันธุ์
การขยายพันธุ์ ปัจจุบันนิยมปลูกด้วยเหง้าที่ได้จากการนำเมล็ดสักที่แก่จัด เพาะลงในแปลง ขนาด 1×20 เมตร ยกระดับสูง 20-30 เซนติเมตร ย่อยดินให้ละเอียด ปรับผิวแปลงให้เรียบ หากดินขาดความอุดมสมบูรณ์ให้ใส่ปุ๋ยคอกเก่า อัตรา 200 กิโลกรัม ต่อไร่ คลุกเคล้าลงในดิน ปลูกระยะ 25×60 เซนติเมตร โดยการเปิดหลุมตื้น ๆ วางเมล็ดลงในหลุม กลบดินตื้น ๆ รดน้ำพอชุ่มคลุมด้วยฟางข้าว
หากต้องการให้ได้ผลดี ควรเพาะเมล็ดในต้นฤดูฝนตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคมไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม เมล็ดสักจะงอกภายใน 30 วัน เนื่องจากกล้าสักต้องการแสงแดดจัดจึงไม่จำเป็นต้องทำหลังคาพรางแสงแต่อย่างใด หมั่นเก็บวัชพืชในแปลงให้สะอาด เมื่อมีอายุครบ 8-10 เดือน จะได้ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของต้นกล้าบริเวณคอของราก 1-1.5 เซนติเมตร
จากนั้นรดน้ำพอชุ่มแล้วถอนต้นกล้าจากแปลง ใช้มีดคมและสะอาดตัดรากฝอยออกจนหมด พร้อมกับตัดปลายรากแก้วทิ้ง ส่วนบนของลำต้นตัดเหนือคอราก 1 นิ้ว ให้มีความยาวประมาณ 20 เซนติเมตร ต้นกล้าที่ถูกตัดแต่ง ที่ได้เรียกว่า เหง้าสัก มัดรวมกันหลายเหง้าเก็บในร่มรำไร หากยังไม่พร้อมปลูกควรเก็บในหลุมทรายที่ชื้นเล็กน้อย ระยะปลูก 2×2, 3×3, 4×4 หรือ 6×6 เมตร จะให้ผลไม่แตกต่างกัน แต่เป็นที่นิยมที่สุดคือ ระยะ 2×2 เมตร หรือ 400 ต้น ต่อไร่ เนื่องจากมีการแข่งขันการยืดตัวในช่วงแรก มีผลทำให้ต้นตั้งตรง เรือนยอดชิดกันได้เร็ว จึงสามารถแข่งขันกับวัชพืชได้ ครบ 5 ปี ตัดสางจำหน่ายได้ ให้เหลือระยะปลูก 2×4 เมตร หรือ 4×4 เมตร อายุ 15 ปี ตัดจำหน่ายได้
การปลูก ขุดหลุมลึก 20 เซนติเมตร วางเหง้าสักลงในหลุมให้ตั้งตรง กลบดินระดับ คอเหง้า หรือรอยต่อระหว่างรากกับต้น กลบดินอัดให้แน่นพอประมาณอย่าให้มีโพรงอากาศในหลุมปลูก เพราะน้ำจะขังหลังฝนตก หรือในช่วงแล้งเหง้าจะแห้งตาย ช่วงปลูกที่ดีที่สุดต้องปลูกในต้นฤดูฝนจะมีอัตรารอดตายสูง เหง้าที่สมบูรณ์อายุ 1 ปี ต้นสักจะเจริญเติบโตให้ความสูง 2-3 เมตร ต้นที่ตายให้ปลูกซ่อมทันที
ใส่ปุ๋ยยูเรีย อัตรา 25 กรัม ต่อต้น ปีละ 2 ครั้ง ต้นฝนและปลายฝน ระยะ 1-2 ปีแรก ลิดกิ่งระโยงระยางที่ไม่ต้องการทิ้งไป ปีต่อไปอาจใส่ปุ๋ย สูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16 อัตราต้นละ 200 กรัม โรยรอบโคนต้นแล้วกลบดิน หากเห็นว่าเจริญเติบโตแข็งแรงดีควรเว้นการใส่ปุ๋ยบ้างก็ได้ ส่วนศัตรูของต้นสักไม่ค่อยรุนแรง อาจพบหนอนกินใบสักเข้าทำลาย ในบางฤดูสามารถกำจัดได้โดยสารเคมีตามความจำเป็น ไฟป่า อาจเกิดขึ้นได้โดยเฉพาะในช่วงแล้ง จึงหมั่นดูแลแปลงปลูกอยู่เสมอ ครบ 15 ปี ตัดฟันไปใช้ประโยชน์ได้
แนวโน้มของอนาคตจะเป็นอย่างไร
อนาคตไม้สักยังเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างแน่นอน แต่กว่าจะให้ผลผลิตได้ต้องใช้เวลา 10-15 ปี ขึ้นไป หากคิดผลตอบแทนปีต่อปี ต่อไร่ ก็คงจะไม่มากอย่างที่คิด แต่ถ้าจะปลูกไว้ให้เป็นมรดกของลูกหรือหลานก็ถือว่าน่าสนใจ และอาจจะเรียกว่า โครงการพ่อปลูกลูกรวย ก็คงไม่ผิด
รายละเอียดจะเป็นอย่างไร ไปดูคลิปกันได้เลย…
ฝากกดไลค์ กดแชร์ ติดตามช่องได้ที่ 👇
ที่มา Youtube Channel : mipak tree thailand
คลิป : https://www.youtube.com/watch?v=jYC6PbYE70I