(คลิป) โคพันธุ์เกลฟี โคที่มีอัตราการเจริญเติบโตเร็วและระบบสืบพันธุ์ดีมากๆ : วีดีโอ เกษตร
- Genres:ปศุสัตว์, วีดีโอทั้งหมด
(คลิป) โคพันธุ์เกลฟี โคที่มีอัตราการเจริญเติบโตเร็วและระบบสืบพันธุ์ดีมากๆ : วีดีโอ เกษตร
EP64-จูงดีโคพันธุ์เกลฟี โคที่มีอัตราการเจริญเติบโตเร็วและระบบสืบพันธุ์ดีมากๆ
โคพันธุ์เกลฟี (Gelbvieh Cattle)
โคเกลฟี มีถิ่นกำเนิดในแคว้นบาวาเรีย ทางตอนใต้ของประเทศเยอรมัน เชื่อว่าได้รับการพัฒนามาตั้งแต่ปลาย คริสต์ศตวรรษที่ 18 ต่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 เป็นโคสีแดง มีเขา ที่มีความสมบูรณ์พันธุ์สูง คลอดง่าย มีความสามารถเลี้ยงลูกดี และลูกโคมีอัตราการเจริญเติบโตสูง เนื้อไขมันต่ำ และมีส่วนของกล้ามเนื้อ ribeye ใหญ่มาก ในอุตสาหกรรมโคเนื้อจึงนิยมใช้ผสมกับโคเนื้อพันธุ์ยุโรปอื่นๆ เช่น แองกัสทั้งดำและแดง เฮอร์ฟอร์ด และชอร์ตฮอร์น
จุดกำเนิดพันธุ์
โคเกลฟี เป็นโคพันธุ์เก่าแก่ที่สุดของเยอรมันพันธุ์หนึ่ง พบครั้งแรก ใน 3 เมือง ในตอนเหนือของแคว้นบาวาเรีย เริ่มมีฝูงปรับปรุงพันธุ์อย่างเป็นระบบ ในปี ค.ศ. 1850 โดยใช้โคสายพันธุ์แท้ the red-yellow Franconian cattle ซึ่งพัฒนามาจากโคหลายสายพันธุ์ในท้องถิ่น เช่น Celtic-German Landrace และ Heil-Brown Landrace cattle โดยพันธุ์ท้องถิ่นเหล่านี้ได้รับการปรับปรุงพันธุ์ต่อมาอย่างเข้มข้น ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1870 มีสมาคมหลายสมาคมถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อปรับปรุงพันธุ์ สมาคมทั้งหลายต่างก็มีความตั้งใจที่จะทำการปรับปรุงพันธุ์โดยการจัดมาตรฐานภายในพันธุ์ผ่านการคัดเลือกพ่อพันธุ์ที่ดีที่สุด เพื่อให้เกิดเป็นพันธุ์แท้ โดยมีสีเดียว ปรับปรุงลักษณะของความแข็งแรงในการทำงานและการผลิตน้ำนม ในปีค.ศ. 1897 ได้มีการจัดตั้งสมาคมพันธุ์โค Yellow Franconia สำหรับ Upper และ Lower Franconia ใน Nurnberg และตามมาด้วยการจัดตั้งสมาคมพันธุ์โคเกลฟี ใน Lower Franconia ในปี ค.ศ. 1899 โดยมีสำนักงานอยู่ที่ Wurzburg
นับแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ในประเทศเยอรมันได้มีการใช้โปรแกรมการคัดเลือกพันธุ์อย่างเข้มงวด เพื่อขยายจำนวนฝูงโค แม่โคที่จดทะเบียนเพียง 3% เท่านั้นที่นำมาใช้เพื่อการผลิตพ่อพันธุ์ที่มีคุณภาพ ดดยคัดจากแม่พันธุ์ที่มีโครงสร้างเหมาะสมที่สุด พ่อพันธุ์ที่เกิดจากแม่เหล่านี้จะนำมาทำการทดสอบสมรรถภาพ และครึ่งหนึ่งของพ่อพันธุ์จากลำดับสูงสุดลงมา จะนำไปผสมพันธุ์เพื่อทดสอบในรุ่นลูกอีกครั้งหนึ่ง การประเมินในรุ่นลูก ประเมินจากลักษณะ ระยะเวลาการตั้งท้อง น้ำหนักแรกเกิด การคลอดง่าย อัตราการเจริญเติบโต น้ำหนักเมื่อส่งโรงฆ่า คุณภาพซาก ลักษณะเต้านมและความสมบูรณ์พันธุ์ และปริมาณผลผลิตน้ำนมของลูกสาว และน้ำเชื้อจากพ่อพันธุ์ที่ผ่านการทดสอบในรุ่นลูกว่าดีเยี่ยมแล้วเท่านั้นที่ถูกปล่อยออกไปใช้
ลักษณะประจำพันธุ์
โคเกลฟี มีสีเหลือง แดง ทอง และมีบ้างที่เป็นสีดำ หนังสีเข้ม ในอดีตถูกคัดเลือกเพื่อมาใช้งาน ผลิตเนื้อ และนม เป็นโคเนื้อที่มีลักษณะของโคยุโรปที่ลักษณะในการเป็นแม่ที่ดี เชื่อง เลี้ยงและดูแลง่ายทำให้เหมาะสำหรับฟาร์มขนาดเล็ก โคเกลฟีเพศเมียมีความสามารถในการให้น้ำนมสูงทำให้เลี้ยงลูกได้ดี ลูกโคมีขนาดกลาง โตเร็ว น้ำหนักแรกเกิด 38-40 ก.ก. น้ำหนักหย่านมที่ 7 เดือน จะมากกว่า 200 ก.ก. และน้ำหนักที่ 12 เดือน จะมากกว่า 300 ก.ก. เพศผู้โตเต็มวัยจะหนัก 1100-1200 ก.ก. เพศเมียโตเต็มวัยจะหนัก 700-900 ก.ก. เป็นโคที่ถึงวัยเจริญพันธุ์เร็วกว่าโคเนื้อพันธุ์อื่นๆ โคเกลฟี สามารถผสมได้ตั้งแต่อายุ 12 เดือน และคลอดลูกตัวแรกได้เมื่ออายุ 21 เดือน จากการศึกษาที่ Clay Center, Nebraska, USA โคเกลฟี มีขนาด ribeye-muscle คิดเป็นพื้นที่ต่อน้ำหนักตัว 100 ก.ก. มากที่สุดในโคเนื้อทุกพันธุ์ ทำให้เป็นโคที่มีผลผลิตที่เป็นเนื้อตัดขายได้สูง นอกจากนี้ยังเป็นโคที่ให้เนื้อมากไขมันน้อยเนื่องจากเป็นโคที่โตเร็ว จึงถูกขายสู่ตลาดในขณะที่เป็นโคอายุปีเดียว ทำให้เป็นโคหนุ่มเนื้อนุ่ม นอกจากนี้โคเกลฟียังเป็นโคที่มีความสมบูรณ์พันธุ์สูง โคเกลฟีเพศผู้เป็นโคที่มีอัณฑะใหญ่ที่สุดในบรรดาโคเนื้อด้วยกัน ซึ่งมีความสัมพันธ์กับความสมบูรณ์พันธุ์ของลูกสาวด้วย นอกจากนี้สมาคมโคเกลฟีแห่งอัฟริกาใต้ ยังได้รายงานว่า โคเกลฟี เป็นโคที่ทนร้อนและทนเห็บ ซึ่งเป็นรายงานที่ได้รับยืนยันผลเช่นเดียวกันใน ควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย
การเลี้ยงโคเกลฟีทั่วโลก
โคเกลฟี ถูกนำเข้ามายังสหรัฐอเมริกาครั้งแรกในรูปของน้ำเชื้อแช่แข็ง โดย LeHall, the Director of International Marketing for Carnation Genetics ในปี ค.ศ. 1971 จำนวน 43,000 โด๊ส และในปีเดียวกันก็ได้มีการจัดตั้ง the American Gelbvieh Association(AGA) ขึ้น ในปัจจุบันมี โคเกลฟี จดทะเบียน กว่า 70,000 แม่ และมีสมาชิก เกือบ 2000 ราย AGA เป็นสมาคมโคเกลฟีที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นสมาคมโคเนื้อพันธุ์ที่มีโคจดทะเบียนมากเป็นอันดับ 8 ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งโคเกลฟี ที่จดทะเบียนในสหรัฐอเมริกา เพศผู้ จะต้องมีเลือดโคเกลฟี 15/16 ส่วนเป็นอย่างต่ำ ส่วนโคสาวจะต้องมีเลือดโคเกลฟี 7/8 เป็นอย่างน้อย เพื่อผสมยกระดับสายเลือด เป็นแม่พันธุ์แท้ต่อไป
ในคานาดาได้มีการจัดตั้งสมาคมโคเกลฟี(the Canada Gelbvieh Association-CGA) ขึ้นในปีค.ศ. 1972 และได้มีการร่วมจดทะเบียนปรับปรุงพันธุ์ ตามกฎหมายภายใต้ the rule and regulations of the Animal Pedigree Act (1988) และได้มีการจดบันทึกลักษณะทางพันธุกรรม กับ the Performance Registry Database ซึ่งจะใช้เป็นข้อมูลในการคำนวณค่า EPDs(Expected Progyny Differences) ของ International Gelbvieh EPDs
ในประเทศออสเตรเลีย ได้มีการนำเข้าน้ำเชื้อโคเกลฟีจากสกอตแลนด์ ในปี ค.ศ. 1976 แต่นำมาใช้ผสมพันธุ์ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1979 โดย Greg Lithgow จาก Chinchilla, Queensland กับโคเฮอร์ฟอร์ด แต่เป็นที่รู้จักกันดีในออสเตรเลียเมื่อ Clyde และ Alison และครอบครัว แห่ง Norolle, Roma ได้เริ่มการยกระดับสายเลือดโคเกลฟี ในปี ค.ศ. 1983 จากโคนมชอร์ตฮอร์น และเฮอร์ฟอร์ด และได้จดทะเบียนเป็นโคเกลฟีพันธุ์แท้ ในปี ค.ศ.1991 และ Norman Blackburn จาก Boyup, Western Australia เป็นคนที่ 3 ที่ใช้น้ำเชื้อโคเกลฟี ในออสเตรเลีย ในปี ค.ศ. 1986 และต่อมาได้มีการนำเข้าทั้งโคเกลฟีมีชีวิต เอ็มบริโอ และน้ำเชื้ออีก ในปี ค.ศ. 1989 และต้น ค.ศ. 1990s นอกจากนี้ยังมีการเลี้ยงโคเกลฟีใน อังกฤษ นิวซีแลนด์ และอัฟริกาใต้อีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะนำไปผสมกับโคเนื้อสายพันธุ์อังกฤษและยุโรป เพื่อสร้างสมดุลในโคเนื้อให้มีลักษณะที่คลอดง่ายและโตเร็ว จนเป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรมโคเนิ้อว่าโคเกลฟีเป็นโคเนื้อเพื่อปรับสมดุล(Balancer)
การเลี้ยงโคเกลฟีในประเทศไทย
ยังไม่ปรากฏการนำเข้าพันธุกรรมโคเกลฟีเข้ามาใช้ในประเทศไทย แต่ก็เป็นพันธุ์โคที่น่าสนใจพันธุ์หนึ่งสำหรับการผลิตเนื้อคุณภาพในบ้านเรา จากลักษณะเด่นของโคเกลฟี ที่ทนร้อน ทนเห็บ คลอดง่าย โตเร็ว ถึงวัยเจริญพันธุ์เร็ว คุณภาพซากดี จึงน่าสนใจที่ทำการศึกษาดูว่าจะสามารถสร้างผลผลิตเนื้อที่มีคุณภาพดีจากโคเกลฟีกับโคพื้นฐานในประเทศไทยได้หรือไม่
เรียบเรียงเนื้อหาโดย ดร.สรรเพชญ โสภณ
คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร
http://www.thailivestock.com/cattle_handling/โคพันธุ์เกลฟี-gelbvieh-cattle
รายละเอียดจะเป็นอย่างไร ไปดูคลิปกันได้เลย…
ฝากกดไลค์ กดแชร์ ติดตามช่องได้ที่ 👇
ที่มา Youtube Channel : JungDee
คลิป : https://www.youtube.com/watch?v=0nwptweo7bs