(คลิป) ปลูกผักหวานป่าโตไว ปีเดียวสูงมาก ลองมาหลายวิธี สุดท้ายเจอแล้ว..ทำยังไงคลิปนี้มีคำตอบ : วีดีโอ เกษตร
- Genres:กสิกรรม(พืช), วีดีโอทั้งหมด
(คลิป) ปลูกผักหวานป่าโตไว ปีเดียวสูงมาก ลองมาหลายวิธี สุดท้ายเจอแล้ว..ทำยังไงคลิปนี้มีคำตอบ : วีดีโอ เกษตร
ปลูกผักหวานป่าโตไว ปีเดียวสูงมาก ลองมาหลายวิธี สุดท้ายเจอแล้ว..ทำยังไงคลิปนี้มีคำตอบ!!
รายละเอียดจะเป็นอย่างไร ไปดูคลิปด้านบนกันได้เลย..
มะคำดีควาย
ถิ่นกำเนิดมะคำดีควาย มะคำดีควาย (ทั้ง 2 ชนิด) มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อยของภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ในประเทศ อินเดีย(โดยเฉพาะแคว้นอัสลัม),เนปาล,บังคลาเทศ,พม่า,ไทย,ลาว,กัมพูชา,มาเลเซีย อินโดนีเซีย ต่อมาได้มีการกระจายพันธุ์ไปในประเทศในทวีปเอเชียอื่นๆ เช่น ไต้หวัน,จีน,ปากีสถาน ฯลฯ สำหรับในประเทศไทยสามารถพบได้ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศโดยพบมากในป่าเบญจพรรณ และป่าดิบแล้งที่มีความสูงตั้งแต่ 150-1600 เมตรจากระดับน้ำทะเล
ประโยชน์และสรรพคุณมะคำดีควาย
ในอดีตคนไทยตามชนบทใช้ประโยชน์จากมะคำดีควาย เช่น นำผลมาใช้เป็นสารชะล้างแทนสบู่เพื่อชำระล้างร่างกาย สระผม หรือนำไปใช้ซักผ้า หรือใช้ทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ นำเมล็ดมะคำดีควายที่มีลักษณะกลมและแข็ง มีสีน้ำตาลดำ ไปใช้ร้อยทำเป็นลูกประคำ หรือเครื่องรางของขลังต่างๆ และยังมีการนำผลของมะคำดีควายมาใช้ในการเบื่อปลา และใช้เป็นยาฆ่าแมลงต่างๆ
– แก้ไข้
– ช่วยดับพิษร้อนภายใน ดับพิษทุกอย่าง
– แก้ไข้แก้เลือด
– แก้หอบเนื่องจากปอดชื้น ปอดบวม
– แก้หวัด คัดจมูก
– แก้กาฬ
– แก้โรคผิวหนัง
– รักษาสิว
– แก้พิษตานซาง
– แก้เสลดสุมฝีอันเปื่อยพัง
– แก้จุดกาฬ
– บำรุงน้ำดี
– แก้สลบ
– แก้พิษ หัด สุกใส
– แก้ฝีเกลื่อน
– แก้ปากเปื่อย
– แก้สารพัดพิษ สรพัดกาฬ
– แก้ไข้จับเซื่องซึม
– แก้ร้อนในกระหายน้ำ
– แก้สารพัดไข้ทั้งปวง
– แก้ชันนะตุ(โรคผิวหนังพุพองบนศีรษะเด็ก)
– แก้เชื้อรา
– แก้รังแค
– ใช้บำรุงผมให้ดกดำ
– ใช้เป็นยากำจัดเหา ฆ่าเชื้อรา รังแคบนหนังศีรษะ
– แก้พิษกาฬ
– ดับพิษกาฬ
– แก้ทุราวาส
– แก้ริดสีดวงมองคร่อ
– แก้ลมคลื่นเหียน
– แก้กษัย
ลักษณะทั่วไปมะคำดีควาย
มะคำดีความ(ชนิด S.rarak DC.) จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ลำต้น ความสูงประมาณ 5-10 เมตร มีลักษณะเปลือกเป็นสีน้ำตาลอมเทา ค่อนข้างเรียบ มีเรือนยอดเป็นทรงพุ่มหนาทึบ
ใบ ออกเป็นช่อ เรียงสลับกัน ช่อใบมีใบย่อยประมาณ 5-9 คู่ ใบย่อยมีลักษณะรูปหอก โคนใบสอบเข้าหากัน ปลายใบเรียวแหลม ใบกว้างประมาณ 0.6 -1.2 นิ้ว ยาวประมาณ 2.5- 4 นิ้ว ใบมีสีเขียวเข้มเหมือนใบทองหลาง
ดอกออกเป็นช่อ ตามปลายกิ่ง มีลักษณะดอกขนาดเล็ก สีขาวนวล หรือสีเหลืองอ่อน ดอกมีกลีบรองกลีบดอกขนาดเล็ก ประมาณ 4 กลีบ โคนกลีบเชื่อมติดกัน มีกลีบดอกประมาณ 5 กลีบ กลีบด้านนอกมีขนสั้น สีน้ำตาลปนแดง ขึ้นประปราย มีเกสรตัวผู้ตรงกลางดอก ประมาณ 10 อัน
ผลมีลักษณะค่อนข้างกลม สีเขียวเมื่ออ่อน สีเหลืองฉ่ำเมื่อสุก และมีสีน้ำตาล จนถึงดำตามลำดับเมื่อแก่และแห้ง เปลือกหุ้มมีลักษณะแข็ง ข้างในประกอบด้วยเมล็ด ผลหนึ่งมี 1 เมล็ดเท่านั้น ออกผลหลาบผลเป็นพวง ขนาดผลเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 0.6 นิ้ว
ส่วนมะคำดีควาย (ชนิด Sapindus trifoliatus L.) จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง เช่นกันมีเรือนยอดของต้นหนาทึบ ลำต้นมักคดงอ มีความสูงของต้นประมาณ 10-30 เมตร เปลือกลำต้นเป็นสีน้ำตาลอ่อน แตกเป็นร่องลึกตามแนวยาว ยอดอ่อนและกิ่งอ่อนมีขนสีน้ำตาล
ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกออกเรียงสลับกัน ในช่อหนึ่งจะมีใบย่อยอยู่ประมาณ 2-4 ใบ ลักษณะของใบย่อยเป็นรูปรีแกมรูปขอบขนาน ปลายใบมน โคนใบมน ส่วนขอบใบเรียบ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 5-7 เซนติเมตรและยาวประมาณ 10-14 เซนติเมตร แผ่นใบเรียบเป็นสีเขียว
ดอกออกดอกเป็นช่อขนาดใหญ่ โดยจะออกบริเวณปลายกิ่ง ดอกเป็นแบบแยกเพศแต่อยู่บนต้นเดียวกัน ลักษณะของดอกเป็นดอกเล็กสีขาวนวลหรือเป็นสีเหลืองอ่อน ๆ ในหนึ่งดอกจะมีกลีบรองดอกขนาดเล็กประมาณ 4 กลีบ โคนกลีบเชื่อมติดกัน และมีกลีบดอกประมาณ 5 กลีบ กลีบข้างนอกมีขนสั้น ๆ สีน้ำตาลปนแดงขึ้นประปราย ส่วนบริเวณกลางดอกมีเกสรเพศผู้อยู่ 10 ก้าน
ผลออกรวมกันเป็นพวง มีลักษณะค่อนข้างกลม มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร ผลสดสีเขียว ผิวผลเรียบหรืออาจมีรอยย่นที่ผลบ้างเล็กน้อย เปลือกผลเมื่อแก่จะเป็นสีน้ำตาลเข้มเกือบดำ ผลมีพู 3 พู และมักจะฝ่อไป 1-2 พู เนื้อในผลมีลักษณะเหนียว ใส เป็นสีน้ำตาล และมีรสหวาน ภายในผลมีเมล็ด 1 เมล็ด เมล็ดมีลักษณะกลมสีดำเป็นมัน เป็นเมล็ด
การขยายพันธุ์มะคำดีควาย
มะคำดีควายสามารถขยายพันธุ์ได้โดยการใช้เมล็ด โดยใช้เมล็ดแก่แช่น้ำประมาณ 1-2 คืน ก่อนนำไปเพาะเพื่อให้งอกได้เร็วขึ้น แล้วจึงนำไปเพาะในกระบะเพาะหรือถุงเพาะชำ จากนั้นให้น้ำทุกๆวันจนเริ่มงอก และเมื่อต้นกล้าโตและมีความสูงประมาณ 30 เซนติเมตร จึงนำไปปลูกลงหลุมในพื้นที่ที่ต้องการ หรืออาจจะใช้เมล็ดที่แช่น้ำแล้วไปหยอดลงหลุมที่ต้องปลูกเลยก็ได้
องค์ประกอบทางเคมี มะคำดีควายทั้ง 2 ชนิด พบสาร hederagenin Quercetin, Quercetin -3 – a – A- arabofuranoside, ß – Sitosterol, Emarginatoside, O – Methyl-Saponin, Sapindus – Saponin
รูปแบบและขนาดวิธีใช้
รักษาชันตุ ใช้ผล 4-5 ผล แกะเอาแต่เนื้อ ต้มกับน้ำประมาณ 1 ถ้วย ใช้น้ำทาที่ศีรษะที่เป็นชันตุวันละ 2 ครั้ง เช้า เย็น หรือใช้เนื้อ 1 ผล ตีกับน้ำสะอาดจนเป็นฟอง ใช้สระผมที่เป็นชันตุวันละ 1 ครั้ง จนกว่าจะหาย
รักษาผิวหนังพุพอง น้ำเหลืองเสีย ใช้ผล 10-15 ผล ต้มกับน้ำพอประมาณ นำเฉพาะน้ำมาชะล้าง หรือแช่บริเวณที่เป็นแผลนาน 5 นาที ทั้งเวลาเช้าและเย็น
ใช้เมล็ดสดหรือแห้งนำมาตำให้ ละเอียด ใช้พอกหรือเอามาละลายน้ำล้างแผล แก้โรคผิวหนัง ใช้ผลที่แห้งนำมาคั่วให้เกรียม จาก นั้นใช้ปรุงเป็นยาดับพิษได้ทุกชนิด แก้กาฬภายใน แก้ไข้ แก้หืด หอบ แก้โรคผิวหนัง และแก้เสลดสุมฝีที่เปื่อยพัง
การศึกษาทางเภสัชวิทยา
ชนิด S.rarak DC. ฤทธิ์ต้านเชื้อรา สารสกัดจากผลไม่ระบุตัวทำละลาย และสารสกัดน้ำจากผล มีฤทธิ์ต้านเชื้อราที่ก่อให้เกิดโรคผิวหนัง, Candida albicans และ Cryptococcus neoformans ด้วยวิธีทดสอบแบบ agar disc diffusion แต่มีฤทธิ์ต้านเชื้อดังกล่าวต่ำกว่ายา ketoconazole (1, 2) สารสกัดน้ำจากเปลือกผลที่ทำให้แห้งด้วยวิธีแช่แข็ง แล้วผสมลงในแชมพู ความเข้มข้น 5 มก./มล. ทำให้เส้นผมสะอาดและอาการคันศีรษะลดลง
ชนิด S.trifolialusL. ฤทธิ์ต้านเชื้อรา สารสกัดซาโปนินจากผลมะคำดีควายมีฤทธิ์ต้านเชื้อรา dermatophytes คือ Epidermophyton floccosum, Microsporum gypseum และTrichophyton mentagrophytes ค่าความเข้มข้นต่ำสุดที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา (MIC) เท่ากับ 250 มคก./ล. และยังมีการทดลองของซาโปนินจากสารสกัดต้านเชื้อรา T. mentagrophytes และ E. floccosum ที่ค่าความเข้มข้นต่ำสุดที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา (MIC) เท่ากับ 25 มก./ล. และต้านเชื้อรา M. gypseum ที่ค่าความเข้มข้นต่ำสุดที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา (MIC) เท่ากับ 50 มก./ล. มีการทดลองทางคลินิกโดยใช้สารสกัดเอทานอล (70%) ทาภายนอก ขนาด 2% ในคน มีฤทธิ์ต้านเชื้อรา
ฤทธิ์ลดการอักเสบ มีการทดลองทางคลินิกโดยใช้น้ำสกัดฉีดเข้าช่องท้องของคน พบว่ามีฤทธิ์ลดการอักเสบได้
ฤทธิ์แก้ปวด สารสกัดเอทานอลและน้ำ ในอัตราส่วน 1:1 กรอกเข้าทางกระเพาะอาหารของหนูถีบจักร พบว่าไม่มีฤทธิ์แก้ปวด
การศึกษาทางพิษวิทยา
การทดสอบความเป็นพิษพบว่า เมื่อฉีดสารสกัดด้วยเอทานอลและน้ำ (1:1) เข้าช่องท้องหนูถีบจักร ขนาดที่ทำให้สัตว์ทดลองตายครึ่งหนึ่ง (LD50)คือ 17.8 มก./กก. ส่วนอีกการทดลองพบว่าขนาดที่ทำให้สัตว์ทดลองตายครึ่งหนึ่ง (LD50)มีค่ามากกว่า 1 ก./กก.
โดยสารเคมีในผลประคำดีควายที่เป็นพิษ คือ saponin, emerginatonede และ o-methyl-saponin มีรสเฝื่อน ขม และกลิ่นฉุน โดยจะออกฤทธิ์ทำลายเม็ดเลือดแดงได้ ถ้าเป็นผงแห้ง หากเข้าทางจมูกจะเกิดการระคายเคืองเยื่อบุจมูก
ข้อแนะนำและข้อควรระวัง
1. ในการใช้ผลมะคำดีควายต้มแล้วใช้ชโลมผมเพื่อแก้ชันนะตุ ไม่ควรชโลมไว้นานเกินไปและควรระวังอย่าให้เข้าตาเพราะอาจทำให้แสบตาและทำให้ตาอักเสบได้และไม่ควรใช้บ่อยหรือใช้ในปริมาณที่มากจนเกินไป
2. เมื่อใช้น้ำต้มผลมะคำดีควายชโลมผมแล้วควรล้างออกให้หมด เพราะอาจทำให้ผมร่วงได้
3. ไม่ควรรับประทานผลมะคำดีควายเพราะ จะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน มีอาการท้องร่วง ระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหารได้
4. หากผงของมะคำดีควายซึ่งมีสารซาโปนินเข้าทางจมูก จะทำให้เกิดอาการระคายเคืองและทำให้จาม ถ้าหากฉีดเข้าเส้นเลือดจะทำให้เม็ดเลือดแดงแตก
ฝากกดไลค์ กดแชร์ ติดตามช่องได้ที่ 👇
ที่มา Youtube Channel : ชาวสวน ยุคใหม่
คลิป : https://www.youtube.com/watch?v=aXwxL_aZDe8