แนวทางการเลี้ยงกบ ในบ่อซีเมนต์
- Genres:ประมง, วีดีโอทั้งหมด, อาชีพ
แนวทางการเลี้ยงกบ ในบ่อซีเมนต์ (มีคลิป)
การเลี้ยงกบในบ่อปูนซีเมนต์เป็นอีกแนวทางอาชีพหนึ่งที่สามารถทำรายได้ให้กับเกษตรกร และเป็นที่นิยมเพราะการบริหารจัดการง่าย เช่นการดูแลรักษาเปลี่ยนถ่ายน้ำทำความสะอาดบ่อ รวมไปถึงการจับเพื่อจำหน่าย
สิ่งที่ควรคำนึงถึงก่อนการเลี้ยงกบ
ก่อนการเลี้ยงกบฉันผู้เลี้ยงคุณความเข้าใจและศึกษาถึงวิธีการเลี้ยงที่ถูกต้องก่อนจึงจะทำให้ประสบความสำเร็จในการเลี้ยง รวมถึงความพร้อมของผู้เลี้ยงเองทั้งทุนพื้นที่และช่องทางการขายต่างๆ
สถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงกบ
ควรอยู่ใกล้บ้าน และสะดวกต่อการดูแล อยู่ใกล้แหล่งน้ำที่มีคุณภาพดีเพียงพอต่อการเลี้ยง เป็นพื้นที่สูงหรือที่ดอนเพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม ห่างไกลจากแหล่งชุมชนหรือบริเวณที่มีเสียงอึกทึกครึกโครมเพราะจะรบกวนกบในช่วงผสมพันธุ์
พ่อแม่พันธุ์กบ
อันดับแรกเลือกพันธุ์กบที่เราต้องการเลี้ยง เช่น กบนา กบจารย์ กบลูฟอก หรือพันธุ์อื่นๆ การเลือกพ่อแม่พันธุ์พ่อแม่พันธุ์กบที่ดีควรมีอายุ 8-9 เดือน ขึ้นไป มีน้ำหนักระหว่าง 200-300 กรัม หรือ 2-3 ขีด
กบเพศผู้ : ที่มีความพร้อมจะสังเกตเห็นรอยย่นของถุงเสียงที่ใช้ในการส่งเสียงร้องเรียกตัวเมียมีลักษณะสีเทาดำคล้ำที่ใต้คานอย่างชัดเจนทั้งสองข้าง และที่บริเวณด้านในของนิ้วหัวแม่มือของเพศผู้ทั้งสองข้างจะพบแถมหน้าสีน้ำตาลมีลักษณะเป็นปุ่มอย่าปุ่มนี้จะช่วยให้การยึดเกาะที่บริเวณเอวของตัวเมียให้แน่นขึ้น และจะหายไปเมื่อหมดฤดูผสมพันธุ์ และเมื่อเราสอดนิ้วเข้าใต้ท้องของเพศผู้จะกอดรัดทันที
กบเพศเมีย : ที่มีความพร้อมสังเกตได้จากบริเวณเอวมีลักษณะพองโตท้องอูมและมีผิวหนังสดใส เมื่อพลิกด้านท้องถิ่นอาจเห็นเส้นเลือดใต้ผิวหนังชัดเจนในบางตัวที่มีรังไข่แกจะสังเกตเห็นเม็ดขายสีดำ และที่ด้านข้างลำตัวทั้งสองข้าง เมื่อใช้มือลูบจะมีลักษณะทราบเพราะมีปุ่มเล็กๆ จำนวนมาก ยิ่งมีความสามารถเท่าได้ออกแสดงถึงความพร้อมของเพศเมียมากขึ้นเท่านั้นเพราะปุ่มเล็กๆ นี้จะช่วยให้กบตัวผู้ก็ขู่ได้ดีขึ้น
ลักษณะบ่อปูนซีเมนต์เลี้ยงกบ
การสร้างบ่อเลี้ยงกบมีวัตถุประสงค์ในการสร้างที่แตกต่างกันเช่นบ่อสำหรับเลี้ยงพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ซึ่งจะมีขนาดไม่ใหญ่มากโดย ทั่วไปแล้วบ่อกบจะเป็นบ่อเอนกประสงค์ คือ ใช้สำหรับผสมพันธุ์ อนุบาลลูกอ๊อด อนุบาลลูกกบ และเลี้ยงกบขุนหรือกบเนื้อในบ่อเดียวกันแต่ต้องมีจำนวนบ่อหลายบ่อ เพื่อให้กบอาศัยเมื่อกบมีขนาดใหญ่ขึ้นบอร์ดส่วนใหญ่เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีหลายขนาด เช่น 2×2.5, 2×3, 3×4, 4×4, 4×5, 4×6 เมตร ความลึกอยู่ที่ 1 เมตร และรวมไปถึงบ่อซีเมนต์กลมขนาด 1-1.5 เมตร เหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของพื้นที่และเงินทุนที่ผู้เลี้ยงสะดวกด้วยนะครับ ทั้งขนาดและจำนวนบ่อ ในส่วนของพื้นบ่อควรมีการเทปูนหนาพอสมควรเพื่อป้องกันน้ำรั่วซึม ด้านในของบ่อทั้งสี่ด้านจะฉาบผิวสูงประมาณ 30-50 เซนติเมตร เพื่อป้องกันน้ำซึมและป้องกันกบเป็นแผลจากการกระโดด บ่อซีเมนต์นั้นมีหลายรูปแบบ เช่น ปูพื้นกระเบื้องซึ่งจะช่วยให้ทำความสะอาดง่าย หรือทาสีบอกให้มีสีเหลือง ทั้งนี้สีของกบจะปรับตัวตามสภาพแวดล้อมที่อยู่ บ่อเลี้ยงกบควรตั้งอยู่กลางแจ้งมีสแลนกรองแสงทำเป็นหลังคาและกันแดด รวมทั้งมีตาข่ายกันนกหรือศัตรูที่จะเข้ามาจับกินกบ หากสร้างบ่อในที่ร่มก็จะไม่สามารถฟักไข่หรือเลี้ยงลูกได้ เนื่องจากในช่วงนั้นกบต้องการอุณหภูมิสูง นอกจากนี้แล้วจะทำให้กบกินอาหารได้ดีแข็งแรงโอกาสการเกิดโรคน้อย ควรมีการวางระบบน้ำโดยเดินท่อพีวีซีไปยังทุกบ่อเพื่อเติมน้ำในขณะที่เปลี่ยนน้ำออกจากบ่อ และรวมไปถึงการทำแอ่งกระทะก้นบ่อตทเปลี่ยนถ่ายน้ำเสียออกไปด้วยก็จะดี
การจัดการบ่อ
สำหรับบ่อปูนซีเมนต์ที่สร้างใหม่ : ให้เติมน้ำจนเกือบเต็มบ่อแล้วนำต้นกล้วยหรือใบขี้เหล็กหรือพืชที่มีรสฝาดขมเปรี้ยวลงไปแช่ในบ่ออย่างน้อย 7 วัน เพื่อลดความเค็มหรือลดความเป็นด่างของน้ำในบ่อที่จะใช้เลี้ยงกบ จากนั้นปล่อยน้ำตากบ่อให้แห้ง
สำหรับบ่อปูนซีเมนต์เก่า : ให้ขัดตะใคร่น้ำ และสิ่งสกปรกออกให้หมดตากแดดทิ้งไว้ไม่น้อยกว่า 1 วัน หรือล้างทำความสะอาดบ่อด้วยด่างทับทิมแช่ทิ้งไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง จากนั้นล้างทำความสะอาดออกให้หมดและตากบ่อให้แห้ง
น้ำสำหรับใช้เลี้ยงกบ
ควรตรวจสอบคุณภาพน้ำ เช่น ความเป็นกรดด่างของน้ำ ph น้ำอยู่ประมาณ 7 ก็จะดี รวมถึงความกระด้าง ค่าอัลคาไลนิตี้ ปริมาณแอมโมเนีย แร่ธาตุในน้ำ ว่าเหมาะสมหรือไม่ซึ่งในส่วนนี้อาจดูยุ่งยากวุ่นวายแต่ศึกษาไว้ก็ดีนะครับ น้ำประปา ควรพักน้ำไว้สองถึงสามวันแล้วค่อยปล่อยลงบ่อ น้ำจากบ่อน้ำหรือแหล่งน้ำสาธารณะซึ่งคุณภาพของน้ำนั้นมักจะไม่สม่ำเสมอหรือปนเปื้อนสารเคมีที่ใช้ในการเกษตร ดังนั้นควรพิจารณาในการนำมาใช้ถ้าจะนำมาใช้ควรมีบ่อพักเก็บกักน้ำไว้ก่อน หากน้ำที่ใช้เป็นน้ำบาดาลควรผ่านการกรองและพักน้ำไว้ก่อนค่อยนำมาใช้แต่บางพื้นที่น้ำบาดาลมีคุณภาพที่ดีก่อนนำมาเลี้ยงกบรุ่นได้เลยเช่นกัน
วิธีขยายพันธุ์กบ
วิธีขยายพันธุ์กบทำได้สองวิธี คือ
1. การขยายพันธุ์โดยวิธีธรรมชาติ
ซึ่งเวลาที่เหมาะสมสำหรับวิธีนี้จะอยู่ในช่วงฤดูผสมพันธุ์ คือ เดือนมีนาคม ถึง เดือนกันยายน ทำโดยการคัดพ่อแม่พันธุ์ที่มีความพร้อมใส่ลงไปในบ่อที่เตรียมไว้ปล่อยทิ้งไว้จับคู่และวางไข่
2. การขยายพันธุ์โดยการฉีดกระตุ้นด้วยฮอร์โมนสังเคราะห์
ทำโดยจะเตรียมพ่อแม่พันธุ์ และบ่อขยายพันธุ์เช่นเดียวกับวิธีแรก โดยใช่ฮอร์โมนสังเคราะห์ฉีดพ่อแม่พันธุ์กบ สารนี้จะกระตุ้นให้แม่พันธุ์ตกไข่และพ่อพันธุ์หลั่งน้ำเชื้อ ซึ่งอัตราปริมาณการฉีดก็เเล้วเเต่ชนิดยี่ห้อของฮอร์โมนที่จะใช้ ซึ่งทั้งสองวิธีก็เลือกใช้ตามความสะดวกของผู้เลี้ยงนะครับ
การขยายพันธุ์และบ่อขยายพันธุ์
บ่อพ่อพันธุ์ใช้ได้ทั้งบ่อซีเมนต์กลมเส้นผ่าศูนย์ 1-1.5 เมตร บ่อซีเมนต์สี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 2×2.5 เมตร ไปจนถึงขนาด 3×4 เมตรหรือมากกว่านี้ขึ้นอยู่กับพ่อแม่พันธุ์และทุนของผู้เลี้ยง บ่อควรกักเก็บน้ำได้ 30-50 เซนติเมตร ซึ่งความสูงของบ่อก็จะอยู่ที่ประมาณ 1 เมตร บ่อต้องผ่านการฆ่าเชื้อมาแล้ว อาจจะด้วยด่างทับทิม หรือฟอร์มาลีน ในการเตรียมบ่อเบื้องต้นจากนั้นให้เติมน้ำลงไปสูง 5-7 เซนติเมตร หรือพอท่วมหลังกบถ้าเป็นน้ำประปาต้องใส่น้ำทิ้งไว้ก่อนผสมพันธุ์ 2-3 วัน ใส่ใบหญ้าคนหรือพรรณไม้น้ำ เช่น ผักบุ้ง ผักตบชวา ใบตำลึง สำหรับเป็นที่เกาะของไข่ บ่อขยายพันธุ์ ควรอยู่กลางแจ้งได้รับแสงแดดเพียงพอเพื่อช่วยให้ขายฟื้นตัวเร็วขึ้น ทำหลังคาบางส่วนเพื่อป้องกันในกรณีที่ฝนตกหนักเพราะถ้ามีน้ำฝนตกลงในบ่อจำนวนมากจะทำให้อุณหภูมิและความเป็นกรดด่างของน้ำในบ่อเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันมีผลทำให้ลูกอ๊อดช็อคตาย และควรมีตะข่ายไนล่อนคลุมปากบ่อเพื่อป้องกันแมลงพอลงวางไข่ เพราะตัวอ่อนแมลงปเป็นศัตรูที่สำคัญของลูกอ่อนและกบเล็ก จากนั้นนำพ่อพันธุ์แม่พันธุ์กบปล่อยลงไปในอัตรา 1:1 หากมีพ่อพันธุ์เยอะก็อัตรา 2:1 ต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร นำมาใส่ไว้รวมกันอาจพ้นน้ำจากสายยางหรือสปริงเกอร์บ่อผสมพันธุ์ให้เหมือนกับฝนตกเพื่อกระตุ้นการจับคู่ ประมาณ 1-3 คืน กบจะผสมพันธุ์และวางไข่ในช่วงเวลาเช้ามืด ราวๆ ตี 4 ถึง 6 โมงเช้า เมื่อเห็นว่ากบออกไข่แล้วให้นำพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ออกจากบ่อ เพื่อป้องกันไม่ให้แพไข่แตก จากนั้นค่อยๆเติมน้ำในบ่อให้สูงเป็น 10 เซนติเมตร แต่ถ้าตบยังไม่วางไข่จะต้องเปลี่ยนน้ำมาอีกครั้งแล้วลองไปแต่ถ้าลองแล้วผมยังไม่วางขายอีกก็ต้องเปลี่ยนพ่อแม่พันธุ์ใหม่
การอนุบาลลูกกบวัยอ่อน
เมื่อไข่โกฟ้กออกเป็นตัวอ่อนแล้วช่วง 2-3 วันแรก ไม่ต้องให้อาหารเพราะลูกอ๊อดยังใช้ไข่แดงที่ติดมาเลี้ยงตัวเอง หลังจากนั้นจึงเริ่มให้อาหารเม็ดสำหรับลูกกบวันละหนึ่งครั้ง ครั้งละประมาณหนึ่งกำมือ หรืออาจให้ไข่แดงบดเป็นอาหารแทนก็ได้ ซึ่งเฉลี่ยแล้วใช้วันละ 2-3 ฟอง ลูกอ๊อดหนึ่งคอก อนุบาลลูกอ๊อดความหนาแน่นที่เหมาะสมตารางเมตรละ 1,000 ตัว และทำการคัดขนาดทุกๆ 2-3 วัน ต่อครั้ง จนกระทั่งเป็นลูกกบแล้วอนุบาลให้ได้ขนาด 1-1.5 เซนติเมตร ในอัตราความหนาแน่นตารางเมตรละ 250 ตัว จากนั้นจึงปล่อยลูกกบลงเลี้ยงในอัตราตารางเมตรละ 100 ตัว ซึ่งเป็นความหนาแน่นที่เหมาะสม และลดปัญหาการเกิดโรค ทั้งนี้ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำสม่ำเสมอ และรักษาความสะอาดของบ่ออนุบาล เมื่อพบกับเริ่มแสดงอาการตัวดังควรใช้เกลือแกงแช่ในอัตรา 0.5% หรือ 5 กิโลกรัมต่อน้ำ 1 ลูกบาศก์เมตร นาน 3-5 วัน หรือในรายที่มีอาการมากอาจใช้ยาออกซิเตตราไซคลิน แชร์ในอัตรา 20 กรัม ต่อน้ำ 1 ลูกบาศก์เมตร ติดต่อกันทุกวันนาน 3-5 วัน และไม่ควรใช้ยาและเกลือแกงในเวลาเดียวกันเพราะเกลือจะทำให้ประสิทธิภาพของยาลดต่ำลง เมื่อลูกมีอายุ 20-30 วัน จึงเป็นลูกกบเต็มวัย ในช่วงนี้ต้องนำไม้ไผ่มาทำเป็นแพ หรือแผ่นโฟมลอยน้ำ เพื่อให้ลูกกบเต็มวัยขึ้นไปอาศัยอยู่เพราะลูกจะโตเต็มวัยไม่พร้อมกัน อาจมีการรังแกกันจนเกิดแผลทำให้ลูกอดตายได้ ดังนั้น จึงต้องลงมือฆ่าลูกกบขนาดตัวยาว 2 เซนติเมตร ไปเลี้ยงในบ่อขนาด 3×4 ที่เตรียมไว้ บ่อละ 1,000 ตัว
การดูแล และเลี้ยงกบเต็มวัยจนเป็นกบโต
เมื่อคัดลูกกบนำไปเลี้ยงในบ่อแล้ว ให้ใส่วัชพืชน้ำและวัสดุลอยน้ำลงไป เช่น แพไม่ไผ่หรือแผ่นโฟม เพื่อให้กบขึ้นไปอาศัยอยู่และนำทางมะพร้าวมาคุมบเพื่อบังแสงแดดด้วย ในช่วงที่คัดลูกกบลงบ่อซีเมนต์ใหม่นี้ให้ใช้อาหารเม็ดสำหรับเลี้ยงลูกกบไประยะหนึ่งก่อน เมื่อกบโตขึ้นจึงค่อยให้อาหารเม็ดสำหรับเลี้ยงกบโตวันละสองครั้งเช้า-เย็น ในอัตรา 3% ของน้ำหนักตัวกบ คือ ถ้ากบน้ำหนักรวม 100 กิโลกรัม ก็ให้อาหารวันละ 3 กิโลกรัม และสามารถให้กินอาหารเสริมจากธรรมชาติเช่นปลวกไส้เดือนจิ้งหรีดหรือหนอนนกที่เกษตรกรสามารถเพาะเลี้ยงได้เองเพื่อประหยัดค่าอาหาร ในขั้นตอนนี้ใช้เวลาเลี้ยงประมาณสามเดือน 3 เดือนครึ่ง ถึง 4 เดือน ก็สามารถจะพบจำหน่ายได้
ตลาดและแนวทางการขาย
ราคาจำหน่ายสามารถแบ่งออกได้เป็นการขายพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ ที่ส่วนใหญ่ขายเมื่อตอนอายุ 8-9 เดือน ราคาโดยประมาณคือคู่ละ 350-500 บาท แต่ที่นิยมเชิงพาณิชย์ คือ การขายกบเนื้อที่ใช้เวลาเจริญเติบโตเต็มที่ตั้งแต่เป็นลูกกบมาจนถึงจับจำหน่ายใช้เวลาประมาณ 80 วัน น้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 200-300 กรัม เป็นไซส์ 4-6 ตัว ต่อกิโลกรัม ราคาตั้งแต่ 70-90 บาท ราคาเหล่านี้มีขึ้นลงนะครับ ต้องเช็คราคาปัจจุบันด้วยตัวเอง รวมไปถึงการขายลูกกบสำหรับผู้ที่สนใจนำไปเลี้ยงต่ออีกทั้งลูกอ๊อดสำหรับผู้ที่สนใจนำไปปรุงเป็นอาหาร ซึ่งเหล่านี้ก็เป็นแนวทางการขายที่จะสามารถกระจายรายได้ให้ผู้เลี้ยงได้ ในส่วนตลาด ผู้เลี้ยงก็ต้องเริ่มหาจากตลาดใกล้บ้านตลาดนัดแหล่งชุมชนที่อาศัยหรือแหล่งรับซื้ออื่นๆ ที่อาจต้องเสาะหาเองตามแหล่งข้อมูลต่างๆ ทางโซเชียล และอินเทอร์เน็ต ตามเพจ ตามกลุ่มต่างๆ ในเฟสบุ๊ค หวังว่าแนวทางการเลี้ยงกบในบ่อปูนซีเมนต์จะนำให้ท่านที่สนใจการเลี้ยงกบเอาไปต่อยอดกันได้นะครับสวัสดีครับ
แนวทางการเลี้ยงกบ ในบ่อซีเมนต์
รายละเอียดจะเป็นอย่างไร ไปดูคลิปด้านบนกันเลย
ฝากกดไลค์ กดแชร์ ติดตามช่องได้ที่ 👇
ที่มา Youtube Channel : Koy My Property Pr
คลิป : https://www.youtube.com/watch?v=KmfvU6HMqmk