Site icon วีดีโอ เกษตร VDO Kaset

(คลิป) ดำเนินคดีตำรวจสันติบาลอุดรฯ เรียกเงิน ข้อหานี้ใครผิดใครถูก!!

(คลิป) ดำเนินคดีตำรวจสันติบาลอุดรฯ เรียกเงิน ข้อหานี้ใครผิดใครถูก!! : วีดีโอ เกษตร


ดำเนินคดีตำรวจสันติบาลอุดรฯเรียกเงิน ข้อหานี้ใครผิดใครถูก!!

“เนื่องจากตำรวจสันติบาลอุดรฯ “รีดทรัพย์ชาวบ้าน” ข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงาน หรือเรียกรับสินบนตกลงใครถูกใครผิด”

สวัสดีครับมาพบกับผมเหมือนเดิมนะครับในช่วงรู้ข่าวทางกฎหมายกับทนายอานนท์ เชื้อสัตตบงกช โผล่มาเป็นระยะระยะนะครับการที่มีชาวบ้านเข้าแจ้งความร้องเรียนเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติไม่ชอบเรียกเงินเรียกทองอย่างเคสนี้นะครับก็มีชาวบ้านเข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 65 ถูกตำรวจสันติบาลของ สภ.อุดรธานี มีการนำหมายค้นเข้าค้นบ้านของชาวบ้านในเขตตำบลนาดี อำเภอเมืองอุดรธานี ว่ามีพฤติการณ์ปล่อยเงินกู้นะเราเรียกดอกเบี้ยเกินกฎหมายที่กำหนด

ปรากฏว่าหลังจากที่นำหมายค้นเข้าไปค้นก็มีการจับกลุ่มสมาชิกผู้ต้องหานะมาทำการสอบสวนที่สถานีตำรวจอุดรซึ่งอยู่ด้านหลัง นะครับเป็นตึกของตำรวจสันติบาล มีการแจ้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันปล่อยหรือให้กู้เงินโดยคิดดอกเบี้ยเกินกฎหมายที่กำหนดจับมา 8 คน ปรากฏว่าในขณะที่ทำการสอบสวนก็มีการเสนอเงินเสนอทองกัดเรียก 1 ล้าน เพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่ไม่ดำเนินคดี ผู้ต้องหาก็เกิดความกลัวก็มีการพยายามหาเงินให้โดยเสนอมีการมอบเงินให้ไปอยู่ที่ 500,000 บาท ตำรวจสันติบาลก็มี 2 นายขึ้นรถตะเวนกด ATM เลยตามในเขตอำเภอเมืองได้เงินไป 500,000 บาทโดยผู้ต้องหาพยายามหยิบยืมจากเพื่อนหรือคนที่รู้จักให้ไป 500,000 หลังจากให้ไป 500,000 แล้วนะทางตำรวจก็มีการขอบันทึกการจับแล้วก็ควบคุมตัวส่งดำเนินคดี 2 คนส่วนอีก 6 คนน่าจะเป็นเป้าและนายเกษมแล้วเพื่อนอีก 4 คนมีการปล่อยตัวไม่ดำเนินคดี หลังจากได้รับการปล่อยตัวตัวนายเป้าและตัวนายเกษมเกษมที่เป็นคนโคราชในเป้าเป็นคนสะกลฯ จึงมีการนำเรื่องเข้าดำเนินคดีคือแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันที่ 10 ในเหตุการณ์ที่เกิดวันที่ 9

ในส่วนเรื่องราวที่เกิดขึ้นนะครับว่าถามว่าใครผิดใครถูกแจ้งความจับอย่างนี้ตำรวจเขาจะมาเล่นงานกลับเหลือข้อหาติดสินบนเสนอหรือจะให้เงินหรือทรัพย์สินอื่นใดเจ้าพนักงานเพื่อปฏิบัติไม่ชอบด้วยหน้าที่ เอาล่ะสิในเคสนี่คือมองดูแล้วอาจจะมีการแจ้งความกลับกัน ซึ่งข้อหาที่ทางตำรวจจะแจ้งกับทางผู้ต้องหาน่าจะเป็นความผิดตามมาตรา 144 ของประมวลกฎหมายอาญา ผู้ใดขอให้รับว่าจะให้หรือเสนอให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงานเพื่อกระทำการอันไม่ชอบด้วยหน้าที่จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีปรับไม่เกิน 100,000 บาท ในขณะเดียวกันตำรวจถ้าเป็นกรณีว่ามีการเรียกรับทรัพย์สินเพื่อปฏิบัติไม่ชอบด้วยหน้าที่จะผิดมาตรา 149 นั่นคือระบุว่าผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดเพื่อปฏิบัติการตามหน้าที่อันชอบหรือไม่ชอบด้วยหน้าที่ก็แล้วแต่ ถือว่ามีความผิดตามมาตรา 149 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิตและโทษปรับตั้งแต่ 100,000 ถึง 400,000 บาท หรือประหารชีวิต

ความผิด 2 อันนี้คือพูดง่ายๆว่ามีผิดทั้งผู้ให้และผู้รับ ที่นี่หลายคนสงสัย ถามพี่อานนท์ ถ้าต่อไปถ้าเกิดว่าเราถูกตำรวจเรียกรับเงินการที่ว่าเราให้ไปเฮ้ยเราก็ผิดแล้วก็ตำรวจเรียกมาตำรวจก็ผิดแล้วยังไงที่จะปลอดภัยครับ ตรงนี้ก็ถือว่าเป็นประเด็นที่น่าสนใจว่าถ้าเกิดต่อไปเราโดนเรียกทำยังไง ปกติคดีประเภทนี้เมื่อมีการแจ้งความจับเจ้าพนักงานตำรวจ โดยทางปฏิบัติตำรวจจะ feedback ทันทีคือแจ้งจับฐานติดสินบนหรือเสนอจะให้สินบนเจ้าพนักงานสวนทันที นี่คือเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน แต่ถ้าเรามองดูในมาตรา 144 จริงๆนะเขาบอกว่าผู้ใดเสนอให้หรือยอมจะให้ หรือรับปากว่าจะให้โดยเจตนาเพื่อให้เจ้าหน้าที่กระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ แต่ถ้ากรณีว่าเราไม่ได้เจตนาให้เพื่อที่จะให้เขาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติที่ไม่ชอบด้วยหน้าที่แต่เราให้เพราะถูกข่มขู่ หรือเพื่อต้องการแสวงหาพยานหลักฐานตรงนี้ถือว่าขาดเจตนาจะไม่มีความผิด ดังนั้นถ้าเกิดว่ากรณีว่าเขาเรียกรับเงินโดยที่ว่าเราไม่มีเจตนาที่จะให้เพื่อที่จะให้เขาปฏิบัติไม่ชอบด้วยหน้าที่ตรงนี้เราจะไม่มีความผิด แล้วดูยังไงการที่เราให้โดยเจตนาที่ว่าโดนข่มขู่หรือเพื่อแสวงหาพยานหลักฐานในการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่เนี่ยเขาจะดูว่าในโอกาสแรกที่คุณมีโอกาสที่จะแจ้งความดำเนินคดีเพื่อนำหลักฐานตัวนี้ไปใช้คุณได้แจ้งความไหม ถ้าโอกาสแรกที่คุณมีแต่บอกให้ไม่แจ้งความเอาแสดงว่าคุณเจตนาให้เพื่อให้เขาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่แสดงว่าเราต้องมาดูในข้อตกลงได้ว่าเมื่อคุณตกลงกันให้เงินไปแต่ทางตำรวจเขาปฏิบัติค้นพบตามที่สัญญาไหม ถ้าไม่ครบตามสัญญาแล้วคุณถึงมาแจ้งจับเขาแสดงว่าคุณก็มีความผิดฐานสินบนเจ้าพนักงานตามมาตรา 144 ทันทีนะ แต่ถ้าเกิดว่ากรณีว่าเอ้าไม่เกี่ยวเรามีโอกาสปรับเราเข้าแจ้งความเลยตรงนี้ถือว่าจะเซฟตัวเราได้ โดยหลักฐานที่จะนำเข้าแจ้งความก็จะมี ภาพถ่าย ข้อความ พยานบุคคล พยานเอกสาร ทุกอย่างสามารถนำเข้าแจ้งความที่ สภ. ท้องที่เกิดเหตุ หรือแจ้งที่ ปปช. ปปท. ได้ทันที

แต่เคสนี้มองดูก็แปลกๆ นิดนึงนะว่าให้ปกติเขาจะดำเนินคดี เฮ้ยจะจับข้อหาปล่อยเงินกู้โดยเรียกดอกเบี้ยเกินกฎหมายที่กำหนด แต่ถ้าบอกให้ฉันไม่ให้นะเอาฉันไปดำเนินคดีเลยก็ไม่จำเป็นต้องไปกดหรือไปส่งมอบ เว้นก็แต่ว่าบอกให้ฉันโดนบังคับตุบตับมีการทุบมีการต่อยบอกให้จำยอมจึงต้องไปกดเงิน พอกดเงินมาปั๊บปล่อยตัวฉัน ฉันถึงเข้าแจ้งความ ตรงนี้ซิ แต่ถ้าเขาไม่ทำร้ายเขาไปกดปั๊บสัญญาจะไม่ดำเนินคดีแต่จับไป 2 ก็ถึงวนกลับมาแจ้งความเขาเพราะเขาไม่ทำตามสัญญาตรงนี้ถือว่าผิดทั้งผู้ให้และผู้รับ

ดังนั้นต่อไปใครถูกดำเนินคดีหรือถูกปฏิบัติที่ไม่ชอบแบบนี้ให้รีบเข้าแจ้งความในโอกาสแรกเลยนะครับอย่าปล่อยให้เนิ่นช้านะ แต่ส่วนการที่จะดำเนินคดีหรือไม่ยังไงมันก็จะเซฟตัวเราเองด้วยให้แจ้งความไว้ก่อน ในเคสนี้ก็ต้องมาดูกันอีกทีนะว่าใครเสนอให้นะว่าใครรับเรียกรับสินบนกันแน่แต่ที่แน่ๆเงินจะได้คืนไหมก็ต้องมาลุ้นกันอีกทีนึง แต่ที่แน่ๆมีแค่สาระความรู้ดีๆทนายอานนท์จะแวะมาชี้แนะความรู้ด้านกฎหมายให้อีกครั้งนึ งสำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อนพบกันใหม่คลิปหน้าสวัสดีครับ

รายละเอียดจะเป็นอย่างไร ไปดูคลิปด้านบนกันได้เลย…

ฝากกดไลค์ กดแชร์ ติดตามช่องได้ที่ 👇
ที่มา Youtube Channel : อานนท์ เชื้อสัตตบงกช
คลิป : https://www.youtube.com/watch?v=SMfwRNcNh8s

Exit mobile version