(คลิป) บอกได้เลยว่า วิธีนี้กำจัดหญ้าคา ได้อย่างถาวร! เพราะผมทำมาแล้ว : วีดีโอ เกษตร
- Genres:กสิกรรม(พืช), วีดีโอทั้งหมด
(คลิป) บอกได้เลยว่า วิธีนี้กำจัดหญ้าคาได้อย่างถาวร! เพราะผมทำมาแล้ว : วีดีโอ เกษตร
บอกได้เลยว่า วิธีนี้กำจัดหญ้าคาได้อย่างถาวร! เพราะผมทำมาแล้ว
รายละเอียดจะเป็นอย่างไร ไปดูคลิปกันได้เลย…
ฝากกดไลค์ กดแชร์ ติดตามช่องได้ที่ 👇
+++ ความรู้เพิ่มเติม +++
หญ้าคา
หญ้าคา (ชื่อวิทยาศาสตร์: Imperata cylindrica Beauv.) เป็นพืชล้มลุกชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในตระกูลหญ้า มีลำต้นสูงประมาณ ๕๐-๑๐๐ เซนติเมตร ลักษณะลำต้นเป็นทรงกลมเรียวยาวขนาดเล็ก ลักษณะใบเป็นขนกระจุก ขอบใบมีลักษณะคมกริบ ออกดอกเป็นช่อก้านยาวสีขาว คล้ายหางกระรอก มีสรรพคุณในการรักษาโรคได้หลายชนิด เช่น โรคไต โรคมะเร็งคอ แก้ลมพิษ ผื่นคัน เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้ประโยชน์จากหญ้าคาในการมุงหลังคา
ชื่ออื่น ๆ
คาหลวง , คา (ภาคกลาง) ลาแล , ลาลาง มลายู และ เก้อฮี (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
มีเหง้าสีขาวแข็งอยู่ใต้ดิน ลำต้นตั้งตรงสูงถึง15 – 20 เซนติเมตร มีกาบใบโอบหุ้มอยู่และริมกาบใบจะมีขน ตัวใบจะเรียวยาวประมาณ 1 – 2 เมตร กว้างประมาณ 4 – 18 มิลลิเมตร มีขนเป็นกระจุกอยู่ระหว่างรอยต่อของตัวใบและกาบใบ ดอกมีสีขาวอมเหลือง หรือเป็นสีม่วง เป็นช่อยาวประมาณ5 เซนติเมตร
แหล่งที่พบ
สามารถพบได้ทั้งในพืชไร่ พืชสวนและพื้นที่รกร้าง ว่างเปล่า สามารถขึ้นได้ดีในดินทุกชนิด สามารถทนต่อแสงแดดและความร้อนได้ดี
สรรพคุณ
ใช้ลำต้นสดหรือแห้ง นำมาปรุงเป็นยาแก้โรคไต แก้โรคมะเร็งคอ และแก้ฝี , ดอก ใช้เป็นยาแก้ปัสสาวะแดง แก้ไอ แก้มะเร็งในลำไส้ แก้ริดสีดวงต่าง ๆ , ราก ใช้ปรุงกินเป็นยาแก้ร้อนใน แก้พิษอักเสบในกระเพาะปัสสาวะ แก้น้ำดีซ่าน ตาเหลือง และเบื่ออาหาร นอกจากนี้หญ้าคายังให้แร่ธาตุไนโตรเจน, ฟอสฟอรัส, โปแทสเซียมอย่างมาก , ทำให้ดินร่วนซุย ทำให้ออกซิเจนลงไปในดิน ได้สะดวก ทำให้ไม่แน่น , มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับพืชตระกูลถั่วคือ ถ้าเน่าเป็นปุ๋ยแล้ว จะสามารถป้องกันเพลี้ยและแมลงต่างๆได้
ลักษณะจำเพาะของหญ้าคา
1.ไม่ชอบบริเวณที่น้ำแฉะ
2.เจริญเติบโตได้ดีในที่ดอน และทุกฤดูกาล
3.ถ้าหากไปเผา-เกี่ยวหรือตัด จะแตกหน่อขึ้นมา จากพื้นดิน อย่างรวดเร็ว
ประโยชน์ของหญ้าคา
ส่วนของใบ ใช้ปรุงเป็นยาต้มอาบ ผื่นคัน แก้ลมพิษ และแก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย ส่วนของดอก ใช้ปรุงเป็นยารับประทานแก้ปวด นำมาตำเป็นยาพอกแผลอักเสบ บวมฝีมีหนอง และ อุจจาระเป็นเลือด ราก ใช้ปรุงเป็นยา แก้ร้อนใน แก้ไอกระหายน้ำ เป็นยารับประทานเพื่อห้ามเลือด แก้เลือดกำเดาไหล และแก้พิษอักเสบในกระเพาะอาหาร
ชาวโอรังอัซลีในรัฐเปรัก ประเทศมาเลเซียใช้ผงแห้งของต้นใช้โรยแผลป้องกันการติดเชื้อ
ในฐานะเป็นพืชเศรษฐกิจ ใช้ประโยชน์ในการมุงหลังคา กระท่อม คอกเลี้ยงหมู เล้าไก่ เล้าเป็ด สามารถกันแดดกันฝนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้หลังคาหญ้าคายังให้ความเย็นได้ดีกว่าการมุงหลังคาจากกระเบื้อง และสังกะสีซึ่งมีราคาแพงกว่าหญ้าคาหลายเท่าตัว และอายุการใช้งานของหลังคาหญ้าคาสามารถใช้ได้นานถึง 3 – 5 ปี ขึ้นอยู่กับความหนาของคาที่ใช้และนอกจากนี้ยังใช้ประโยชน์ในการจักสานอีกด้วย จึงนับได้ว่าหญ้าคากลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้แก่เกษตรกรเป็นอย่างมาก
โทษของหญ้าคา
1.หน่อของหญ้าคาแหลมคมมาก ถ้าเดินเข้าไปโดยไม่ระมัดระวัง จะทิ่มแทงฝ่าเท้า ทำให้เกิดความเจ็บปวดได้
2.เนื่องจากหญ้าคาเป็นวัชพืช สามารถขึ้นได้ตามพื้นที่รกกร้าง ไร่หรือท้องนา ทำให้ชาวไร่ชาวนาส่วนมากไม่ค่อยชอบ
3.เมื่อนำไปมุงหลังคาบ้าน หรือกระท่อม ไม่ค่อยทนทาน และถ้าดูแลไม่ดี อาจจะเกิดอัคคีภัย ก่อให้เกิดความเสียหาย แก่ทรัพย์สินได้
การขยายพันธุ์
เป็นพรรณไม้ที่ขึ้นได้ดีใน ดินทุกชนิด ทนต่อความร้อน และแสงแดดได้ดี ขยายพันธุ์ด้วยการใช้เหง้า หรือเมล็ด
การเป็นพืชพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกราน
หญ้าคาเป็นพืชต่างถิ่นรุกราน(invasive alien species) และเป็นวัชพืชอายุหลายปีแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วด้วยการแตกหน่อจากไหลใต้ดินที่มีใบเกล็ดปกคลุมและการกระจายตัวของเมล็ด หญ้าคาสามรถผลิตเมล็ดได้มากถึง 3,000 เมล็ดต่อต้น เจริญเติบโตได้ดีทั้งในดินที่แห้งและดินที่ชื้นและสามารถขึ้นปกคลุมพื้นที่โล่ง หรือ บริเวณที่ถูกทำลายได้ดีมาก
หญ้าคาสร้างความเสียหายต่อพรรณพืชดั้งเดิมคือ แก่งแย่งธาตุอาหารและน้ำ ทำให้กล้าไม้อื่น ๆ ไม่สามารถขึ้นอยู่ได้เป็นเหตุทำให้พืชดั้งเดิมลดจำนวนลง บริเวณที่มีหญ้าคาปกคลุม พื้นที่บริเวณนั้นจะไม่มีพืชชนิดอื่น เนื่องจากหญ้าคาจะมีการปล่อยสารยับยั้งการเจริญเติบโตของพืชอื่น ประกอบกับระบบรากที่มักแผ่กระจายหนาแน่นปกคลุมดินชั้นบนทำให้ยากแก่การงอกของพืชชนิดอื่น และในช่วงฤดูร้อน หญ้าคาที่แห้งเป็นเชื้อเพลิงได้ดีซึ่งเมื่อเกิดอัคคีภัย ทำให้เกิดความเสียหายกับพื้นที่ป่าธรรมชาติบริเวณรอบข้างอย่างมาก หญ้าคาระบาดได้ทั่วประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่รกร้างหรือตามพื้นที่เกษตรกรรม พบระบาดมากในทุกพื้นที่ในประเทศไทย ยกเว้นภาคกลางที่มีการระบาดปานกลาง
การกำจัดและป้องกัน
1.ใช้วิธีการเขตกรรม เช่น การถาก ตัดให้สั้นไม่ให้ออกดอก หรือขุดทิ้ง
2.ใช้สารเคมีต่างๆ เช่น มาร์เก็ต ไกลโฟเสต ดาร์ไฟท์ (ไกลโฟเซต, ไอโซโพฟิลามีน ซอลต์) ดามาร์ค (ไกลโฟเลท) ทัชดาวน์ (ไกลโฟเซต ไตรมีเซียมซอลต์)
ที่มา Youtube Channel : Sivakorn Channel
คลิป : https://www.youtube.com/watch?v=qFXGycWpuCM